bollon dor football player
ผู้ที่คู่ควรกับรา งวัล
ในทุกสมัยจะมีการเกิดเหล่านักเตะใหม่ๆที่ยังไม่มีโอกาสลงสนาม
ในทุกสมัยจะมีตัวเเทนเหล่านักเตะที่เป็นตำนาน
เเละในทุกสมัยจะมีนักเตะที่เป็นตำนานที่เกิขึ้นใหม่เสมอ
New legends
Jean-Pierre Papin 1991
เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส เคยได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรปในปี ค.ศ. 1991 เขาประสบความสำเร็จอย่างมากเมื่อเล่นกับสโมสรออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ ระหว่างปี ค.ศ. 1986 ถึง 1992
Marco Van Basten 1992
เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1964) เป็นผู้จัดการฟุตบอลและอดีตนักฟุตบอลชาวดัตช์ที่เคยเล่นให้กับสโมสรอายักซ์และเอ.ซี. มิลาน รวมทั้งทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในคริสต์ทศวรรษ 1980 และต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 ฟัน บัสเตินได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล โดยทำประตูไปได้ทั้งสิ้น 277 ประตูและมีอาชีพการค้าแข้งที่สวยหรู แต่เขาได้ลงเล่นเกมสุดท้ายในปี ค.ศ. 1993 ขณะที่มีอายุได้เพียง 28 ปี เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ ทำให้เขาต้องเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในอีกสองปีต่อมา หลังจากนั้นเขาได้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของอายักซ์และทีมชาติเนเธอร์แลนด์
ในการลงเล่นให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ฟัน บัสเตินสามารถพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1988 และได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของรายการ โดยทำไปได้ทั้งสิ้น 5 ประตู ซึ่งมีลูกยิงวอลเลย์ที่เขาทำได้ในนัดชิงชนะเลิศที่พบกับสหภาพโซเวียตรวมอยู่ด้วย ส่วนในระดับสโมสร เขาคว้าแชมป์เอเรอดีวีซี 3 ครั้ง และยูฟ่าคัพวินเนอส์คัพ 1 ครั้งร่วมกับอายักซ์ รวมทั้งคว้าแชมป์เซเรียอา 3 ครั้ง และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 ครั้งร่วมกับเอ.ซี. มิลาน
Roberto Baggio
โรแบร์โต บัจโจ เริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรกในปี พ.ศ. 2525 (ค.ศ. 1982) กับสโมสรวีเชนซา บ้านเกิด จนถึงปี พ.ศ. 2528 (ค.ศ. 1985) จึงย้ายไปอยู่ที่ฟีออเรนตีนา จากนั้นในปี พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) จึงย้ายไปอยู่ที่ยูเวนตุส สโมสรชั้นนำของอิตาลีและของยุโรป จนได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรปหรือบาลงดอร์ (Ballon d'Or) ในปี พ.ศ. 2536 (ค.ศ. 1993) ก่อนที่จะเป็นกองหน้าในทีมชาตินำทีมเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา และพาทีมเป็นรองแชมป์โลก
จากนั้น บัจโจ จึงได้ย้ายไปอยู่ที่เอซีมิลาน ในปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) ไปอยู่กับโบโลญญาในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ย้ายไปอยู่กับอินเตอร์มิลาน ในปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) และเบรชชา ในปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) ก่อนที่จะแขวนรองเท้าไปในปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004)
โรแบร์โต บัจโจ เป็นนักฟุตบอลรูปร่างเล็ก โดยสูงเพียง 174 เซนติเมตรเท่านั้น เป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่งทีเดียวในสมัยที่ยังเล่นฟุตบอลอยู่ มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือผมเปียที่ท้ายทอย
Hristo stoikhov 1994
ตำนาน ซ้ายใบมีด “The Dagger” ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ (Hristo Stoichkov Stoichkov) ตำนานนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงและความสามารถระดับแนวหน้าของโลก ผู้พลิกประวัติศาสตร์มากมายให้กับทีมชาติ บัลแกเรีย และเป็นหนึ่งในตำนานของสุดยอดสโมสรอย่าง บาร์เซโลน่า เป็นผู้เล่นสำคัญมากทีสุดที่ เขี่ยทีมชาติ อาร์เจนติน่า ตกรอบแรก และเขี่ยทีมชาติ เยอรมัน ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1994 และทำผลงานคว้าอันดับ 4 มาครอง ที่เป็นประวัติศาตร์ที่ยิ่งใหญ์ที่สุดของวงการลูกหนังบัลแกเรีย พร้อมกับการเป็นดาวซัลโวฟุตบอลโลกปี 1994 เป็นเพลย์เมกเกอร์ กองหน้าตัวต่ำ และกองกลางตัวรุก มีสไตล์ที่หลากหลาย มีทักษะมากมาย ผ่านบอลทะลุช่องได้ดี ยิงคม แรง มีลูกฟรีคิก และจุดโทษที่ยอดเยี่ยม และจุดเด่นที่สุดคือ มีสไตล์การเสี้ยงบอลที่คล่องแคล่ว พาบอลไปอย่างรวดเร็ว ในการค้าแข้งกับสโมสรได้ประสบความสำเร็จมากเมื่อตอนอยู่กับ ซีเอสเคเอ โซเฟีย, บาร์เซโลน่า และได้ยุติการค้าแข้งกับ สโมสร ดีซี ยูในเต็ด ของสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นก็ได้หันมาเป็นผู้จัดการทีมชาติ บัลแกเรีย และสโมสรอย่าง ซีเอสเคเอ โซเฟีย และ เซลต้า บีโก้ อีกด้วย
George Weah 1995
เกิดวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1966) เป็นนักการเมืองและอดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวไลบีเรีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไลบีเรียคนที่ 25 ตั้งแต่ ค.ศ. 2018 ก่อนหน้าที่เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี เขาเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาจากเทศมณฑลมอนต์เซอร์ราโด สำหรับอาชีพฟุตบอล เขาเคยเล่นในตำแหน่งกองหน้า โดยเริ่มเล่นในระดับอาชีพตั้งแต่อายุ 18 ปี จนกระทั่งเลิกเล่นใน ค.ศ. 2003[3] เขาเป็นนักฟุตบอลชาวแอฟริกันคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประมุขของรัฐ[4]
หลังจากที่เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพในประเทศบ้านเกิดอย่างไลบีเรีย เวอาห์ได้เล่นให้กับหลายสโมสรในฝรั่งเศส อิตาลี และอังกฤษเป็นระยะเวลาถึง 14 ปี อาร์แซน แวงแกร์เป็นผู้ที่นำพาเขาไปเล่นฟุตบอลในยุโรป โดยเขาได้เซ็นสัญญากับมอนาโกของแวงแกร์ใน ค.ศ. 1988 เวอาห์ย้ายไปปารีแซ็ง-แฌร์แม็งใน ค.ศ. 1992 นอกจากเขาจะพาทีมชนะเลิศลีกเอิงใน ค.ศ. 1994 แล้ว เขายังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 1994–95 อีกด้วย ต่อมาเขาเซ็นสัญญากับเอซี มิลานใน ค.ศ. 1995 เขามีช่วงเวลาที่ดีกับสโมสรถึงสี่ฤดูกาล โดยเขาพามิลานชนะเลิศเซเรียอาได้ถึงสองสมัย[5] ต่อมาเขาได้ย้ายไปพรีเมียร์ลีก โดยได้เล่นให้กับเชลซี ซึ่งพาทีมชนะเลิศเอฟเอคัพ และยังได้เล่นให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี เขากลับเป็นฝรั่งเศสอีกครั้งเพื่อเล่นให้กับมาร์แซย์ใน ค.ศ. 2001 เขายุติอาชีพนักฟุตบอลกับอัลญะซีเราะฮ์ใน ค.ศ. 2003 โฟร์โฟร์ทู จัดอันดับให้เวอาห์เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดที่ไม่เคยชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก[6]
Matthias summer 1996
Matthias Sammer (การออกเสียงภาษาเยอรมัน: [maˈtiːas ˈzamɐ] ; เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2510) เป็นอดีตนักฟุตบอลและโค้ชอาชีพชาวเยอรมันซึ่งทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการด้านกีฬาของบาเยิร์น มิวนิคครั้งล่าสุด เขาเล่นเป็นกองกลางและต่อมาในอาชีพของเขาเป็นกวาด
กับโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ในฐานะผู้เล่น Sammer ได้รับรางวัลบุนเดสลีกาและDFL-Supercupในปี 2538 บุนเดสลีกา DFL-Supercup และนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรปในปี 2539 และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและถ้วยอินเตอร์คอนติเนนตัลในปี 2540 โดยมีเยอรมนีเป็นผู้เล่น , Sammer ได้รับรางวัลUEFA Euro 1996ซึ่งเขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของการแข่งขันและต่อมาได้รับรางวัลBallon d'Orในปีนั้น Sammer เลิกเล่นด้วยจำนวนผู้เล่นทั้งหมด 74 นัด , 23 เกมสำหรับเยอรมนีตะวันออกและ 51 เกมสำหรับทีมแบบรวมเป็นหนึ่ง