วิธีการเล่นฟุตบอล(How to play football)
ซ็อคเกอร์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ฟุตบอล เป็นเกมการแข่งขันที่สนุกเร้าใจ เป็นกีฬาที่มีการเล่นมากที่สุดในโลก มันถูกยกให้เป็น “เกมกีฬาที่มีความสวยงาม” เนื่องด้วยทักษะของนักเตะที่น่าตื่นตาตื่นใจ กลยุทธ์ในการเล่นเป็นทีม และการประสานงานร่วมกันของนักเตะแต่ละคน หากคุณรู้สึกจริงจังกับการเล่นฟุตบอล จำไว้ว่าคุณต้องฝึกฝนให้หนัก นานขึ้น และเร็วขึ้นกว่าคู่แข่งของคุณ และจำเป็นต้องคลุกคลีอยู่กับลูกฟุตบอลอยู่เสมอๆ
ส่วน1 รู้กฎ และกติกาของกีฬาฟุตบอล
1. เข้าใจวัตถุประสงค์ของเกม. โดยวัตถุประสงค์ของเกม คือการทำประตูให้ได้มากกว่าคู่แข่ง การจะได้ประตู ลูกฟุตบอลต้องผ่านเส้นประตูเข้าไปทั้งใบ
-
ผู้รักษาประตูเมื่ออยู่ในกรอบเขตโทษของตัวเองเป็นเพียงผู้เล่นคนเดียวที่สามารถใช้แขน และมือในการเล่นฟุตบอล ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นสามารถใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายในการเล่นฟุตบอล ยกเว้นการใช้แขน และมือ
-
เกมอย่างเป็นทางการจะใช้เวลา 90 นาที โดยแบ่งเป็น 2 ครึ่งๆ ละ 45 นาที
2. รู้ตำแหน่งการเล่นฟุตบอล. ทีมที่ทำการแข่งขันจะมีผู้เล่นฝั่งละ 11 คนในตอนเริ่มเกม ถึงแม้ว่าตำแหน่งการเล่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามแผนการเล่นของผู้ฝีกสอน แต่โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู 1 คน กองหลัง 4 คน กลองกลาง 4 คน และศูนย์หน้า 2 คน
-
กองหลัง. โดยทั่วไปกองหลังจะปักหลักอยู่หลังเส้นกึ่งกลางสนาม เพื่อช่วยในการป้องกันการทำประตูจากฝั่งคู่แข่ง ผู้เล่นในตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้ดี และมีร่างกายที่ค่อนข้างใหญ่กว่าผู้เล่นในตำแหน่งอื่น
-
กองกลาง. โดยกองกลางเป็นผู้เล่นที่วิ่งมากที่สุดในสนาม เนื่องจากพวกเขาต้องทำหน้าที่ทั้งรุก และรับ โดยทั่วไปผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางจะเป็นผู้สร้างสรรค์เกม โดยพวกเขาจะเก่งในการครองบอล และการผ่านบอล
-
ศูนย์หน้า/หน้าเป้า ผู้เล่นในตำแหน่งนี้จะมีโอกาสในการยิงประตูมากที่สุด พวกเขาจำเป็นต้องมีความรวดเร็ว คล่องแคล่ว และสามารถยิงประตูได้อย่างน่าทึ่ง พวกเขายังต้องสามารถเล่นลูกโหม่งได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน
-
ผู้รักษาประตู: ผู้เล่นในตำแหน่งนี้ จะเป็นผู้ป้องกันกรอบ 18 หลา และเป็นผู้เล่นเพียงตำแหน่งเดียวในสนามที่สามารถใช้มือได้ในกรอบเขตโทษฝั่งตัวเอง ผู้รักษาประตูต้องมีความยืดหยุ่น มีปฏิกิริยาที่รวดเร็วในการคาดเดาทิศทางลูกฟุตบอล และมีไหวพริบในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม
3. รู้ว่าการเริ่มเขี่ยลูกฟุตบอลเป็นการเริ่มต้นเกมทั้งครึ่งแรก และครึ่งหลัง. ทีมใดทีมหนึ่งจะเป็นฝ่ายเขี่ยลูกฟุตบอลเริ่มเกมก่อน ในขณะที่อีกทีมจะเป็นฝ่ายเขี่ยลูกฟุตบอลในช่วงครึ่งหลัง ในขณะที่ทำการเขี่ยลูกฟุตบอลเริ่มเกม ผู้เล่นแต่ละทีมจำเป็นต้องอยู่ในครึ่งสนามฝั่งของตนทั้งหมด แต่ทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น และลูกฟุตบอลถูกเขี่ยเริ่มเกม ผู้เล่นทั้งสองฝั่งสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระทั้งในแดนตัวเอง รวมไปถึงฝั่งคู่แข่ง แต่ต้องไม่ผิดกฎการล้ำหน้า
-
ทีมหนึ่งจะเริ่มเขี่ยลูกก่อน ฝ่ายตรงข้ามจะได้เริ่มก่อนในครึ่งหลัง
-
ทุกครั้งที่มีการยิงประตู จะกลับมาเริ่มเขี่ยบอลใหม่โดยทีมที่เป็นฝ่ายถูกยิงประตู
4. เข้าใจการทุ่มลูกฟุตบอล. การทุ่มจะเกิดขึ้น เมื่อลูกฟุตบอลถูกเตะออกด้านข้างสนาม โดยการครอบครองบอลจะเป็นของทีมที่ไม่ได้เป็นฝ่ายสัมผัสบอลเป็นคนสุดท้ายก่อนลูกฟุตบอลออกเส้นข้างสนาม ทีมที่ได้ครอบครองบอลจะเป็นฝ่ายทุ่มลูกฟุตบอลเข้ามาในสนามในจุดที่ลูกฟุตบอลถูกเตะออกเส้นข้างสนาม
-
ผู้เล่นที่เป็นคนทุ่มลูกฟุตบอลสามารถวิ่งเพื่อเพิ่มแรงส่งในการทุ่มลูกฟุตบอลเข้ามาในสนาม แต่ต้องหยุดใกล้กับจุดที่ลูกฟุตบอลออกเส้นข้างสนาม
-
ผู้เล่นต้องทุ่มลูกฟุตบอลออกมาจากด้านหลังศีรษะด้วยมือทั้งสองข้าง และปล่อยลูกฟุตบอลเหนือศีรษะด้วยสองมือ
-
ผู้เล่นไม่สามารถยกเท้าข้างใดข้างหนึ่งจากพื้น ในขณะที่กำลังทุ่มลูกฟุตบอลเข้ามาในสนาม โดยเท้าทั้งสองต้องอยู่กับพื้น
5. รู้ความแตกต่างระหว่างการเตะมุม และการตั้งเตะจากกรอบประตู. หากลูกฟุตบอลออกเส้นหลังประตู (แต่ไม่ใช่ในประตู) และถูกสัมผัสครั้งสุดท้ายโดยทีมที่เป็นฝ่ายป้องกัน โดยลูกฟุตบอลจะถูกนำกลับไปตั้งยังมุมธงฝั่งที่ใกล้กับจุดที่ลูกฟุตบอลออกเส้นหลัง และกลายเป็นลูกเตะมุมโดยทีมที่เป็นฝ่ายบุก
-
หากลูกฟุตบอลออกเส้นหลังประตู (แต่ไม่ใช่ในประตู) และถูกสัมผัสครั้งสุดท้ายโดยทีมที่เป็นฝ่ายบุก ลูกฟุตบอลจะถูกนำมาตั้งเส้นกรอบ 6 หลาหน้าประตู และกลายเป็นลูกตั้งเตะจากกรอบประตูโดยทีมที่เป็นฝ่ายป้องกัน โดยทั่วไปผู้รักษาประตูจะเป็นคนเตะลูกฟุตบอลออกมาจากกรอบประตู
6. เข้าใจการล้ำหน้า. โดยการล้ำหน้าเป็นกฎกติกาที่สำคัญในกีฬาฟุตบอล และถูกตั้งไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นฝั่งใดฝั่งหนึ่งยืนดักรออยู่ที่หน้าประตูของฝั่งคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา ผู้เล่นจะถูกจับล้ำหน้า เมื่อเขา หรือเธอทำดังต่อไปนี้: อยู่หน้าลูกฟุตบอลในฝั่งสนามของคู่แข่ง และอยู่ด้านหลังกองหลังคนสุดท้าย เมื่อลูกฟุตบอลถูกผ่านมาให้เขา
-
การล้ำหน้าไม่มีผลเมื่อ:ทุ่มบอล,เตะมุม, ลูกตั้งเตะจากกรอบประตู
-
เมื่อถูกจับล้ำหน้า ฝ่ายตรงข้ามจะได้เตะลูกกินเปล่าขึ้นมา
7. รู้จักความแตกต่างระหว่างลูกตั้งเตะจังหวะเดียว และลูกตั้งเตะสองจังหวะ. โดยลูกตั้งเตะจังหวะเดียวนั้น คุณสามารถเตะบอลเพื่อทำประตูได้โดยตรง โดยลูกฟุตบอลไม่จำเป็นต้องถูกสัมผัสโดยเพื่อนร่วมทีมคนอื่นก่อน และลูกตั้งเตะสองจังหวะนั้น จำเป็นที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นต้องสัมผัสถูกลูกฟุตบอลก่อนจึงสามารถนับเป็นประตูได้ หากลูกฟุตบอลเข้าประตู
-
ลูกตั้งเตะจังหวะเดียวมักให้เมื่อมีการฟาวล์จากการเสียบปะทะหรือมีการใช้มือ ลูกตั้งเตะสองจังหวะนั้นกรรมการจะให้เมื่อเกิดการหยุดเกมในกรณีอื่นๆ
-
ระหว่างการเตะลูกตั้งเตะสองจังหวะ กรรมการจะชูมือขึ้นตลอดจนกว่าลูกบอลจะไปสัมผัสผู้เล่นคนที่สอง
8. รู้ว่าการทำฟาล์วภายในกรอบเขตโทษ จะส่งผลให้เป็นลูกจุดโทษ. โดยลูกจุดโทษจะเกิดขึ้น เมื่อผู้เล่นที่เป็นฝ่ายป้องกันทำฟาล์วคู่แข่งในกรอบเขตโทษของเขา หรือเธอ ทั้งนี้ผู้เล่นคนอื่นๆ ยกเว้น ผู้รักษาประตู และผู้เตะจุดโทษ ต้องยืนเรียงแถวอยู่นอกกรอบเขตโทษ ผู้รักษาประตูต้องยืนอยู่บนเส้นประตู และไม่สามารถเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่ง ก่อนที่ลูกฟุตบอลจะถูกยิงออกจากจุดโทษ
-
ลูกฟุตบอลจะถูกวางไว้ที่จุดโทษห่างจากเส้นประตู 12 หลา หลังจากลูกฟุตบอลถูกยิง หากผู้รักษาประตูปัดออกมาได้ หรือชนเสา ลูกฟุตบอลสามารถถูกเล่นต่อโดยทีมไหนก็ได้
-
ผู้เล่นคนไหนก็สามารถยิงลูกจุดโทษได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ถูกทำฟาวล์
9. รู้เหตุผลของการให้ใบเหลือง. ผู้ตัดสินจะให้ใบเหลืองเพื่อเป็นการเตือนผู้เล่น การได้รับใบเหลือง 2 ใบ หมายถึงใบแดง ซึ่งผู้เล่นจะถูกส่งออกนอกสนามอย่างถาวร เหตุผลสำหรับการให้ใบเหลือง ได้แก่
-
การเล่นที่อันตราย เช่น เตะสูงเหนือศีรษะของผู้เล่นฝั่งตรงข้าม เป็นต้น
-
การเข้าสกัดที่ผิดกติกา เกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นตั้งใจเข้าขวางระหว่างลูกฟุตบอล และคู่แข่ง เมื่อผู้เล่นไม่ได้อยู่ในระยะที่สามารถเล่นลูกฟุตบอลได้
-
เข้าปะทะผู้รักษาประตูในกรอบเขตโทษ
-
จงใจถ่วงเวลาช่วงท้ายเกม
-
ถอดเสื้อแข่ง
-
การปะทะอื่นๆ
10. รู้เหตุผลของการให้ใบแดง. โดยใบแดงสามารถถูกให้ได้ทันที ก่อนการให้ใบเหลือง ก็ต่อเมื่อมีการเล่นที่เป็นอันตรายรุนแรงเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าใบแดง โดยปกติจะถูกให้ก็ต่อเมื่อ ผู้เล่นคนเดียวกันได้รับใบเหลืองใบที่สอง ทั้งนี้เหตุผลของการให้ใบแดง ได้แก่
-
การจงใจทำฟาวล์บ่อยๆ
-
ถ่มน้ำลายใส่ผู้เล่น
-
ใช้มือปัดลูกฟุตบอล โดยไม่ใช่ผู้รักษาประตู
-
เข้าเสียบสกัดผู้เล่นอย่างจงใจเพื่อไม่ให้เสียประตู
-
ถ้าผู้เล่นต้องออกจากสนามเพราะได้รับ 2 ใบเหลืองหรือได้ใบแดง จะเปลี่ยนตัวคนนั้นออกไม่ได้ ทำให้ทีมนั้นมีจำนวนตัวผู้เล่นน้อยกว่า (เช่น 10-ต่อ-11)
ขอบคุณข้อมูลจาก https://th.wikihow.com